วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

เกษตรกรผู้ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (2)


เมื่อมีโอกาสเข้าไปเรียนรู้เรื่องวนเกษตรจากผู้ใหญ่ฯ วิบูลย์ เข็มเฉลิม และพบปะกับเครือข่ายผู้นำชุมชนในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น พ่อเลี่ยม บุตรจันทา ปราชญ์ชุมชน แห่งอำเภอสนามชัยเขต ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ที่จะต้องรู้จักตัวเอง รู้ปัญหาตัวเอง เพราะปัญหาตัวเองก็คือปัญหาชุมชนนั่นเอง ชุมชนจะเข้มแข็งได้จะพึ่งตนเองได้ ก็ต้องมีการเรียนรู้ ซึ่งมีอยู่ 5 ข้อ คือ
1. รู้ตัวเอง ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนจะได้รู้ในตัวเอง
2.  รู้ปัญหา วิเคราะห์รายจ่าย เช่น ทำไมต้องเล่นหวย เล่นการพนัน เสพของมึนเมา ทำไมต้องซื้อ ทำไมต้องผ่อนชำระสินค้า
3. รู้ทรัพยากร ทำข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แหล่งน้ำ หิน กรวด ป่าไม้ ในหมู่บ้าน
4. รู้การจัดการ เช่น ทำข้อมูลเรื่องข้าวสารว่า ในหมู่บ้านรับประทานข้าวกี่กิโลกรัม กี่ถัง กี่เกวียน ชาวบ้าน ทำโรงสีผลิตข้าวเองได้ไหม เพื่อกำหนดราคาข้าวเองให้กับชาวบ้าน
5. รู้การวางแผนชีวิต วางแผนตนเอง ต้องละเลิกอบายมุข และวางแผนครอบครัว
                 นายวินัยได้นำหลักการ 5 รู้ มาวิเคราะห์อดีตของตนเองได้เห็นสภาพการประกอบอาชีพของตนเอง
ที่ผ่านมาที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จนมองเห็นสิ่งต่างๆที่ ผ่านมาในชีวิต โดยเฉพาะข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น จึงมีการพูดคุยกับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวร่วมกันและหันกลับมาคิดแก้ไขปัญหาโดยการพึ่งตนเอง การเรียนรู้ตนเองนั้น มีเครื่องมือคือการทำบัญชีรายจ่ายประจำวัน ซึ่งทำให้เรารู้ว่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ใช้จ่ายเพื่ออะไร จึงเป็นที่มาของการรู้ปัญหา
ของตนเองและครอบครัว แล้วก็เรียนรู้เรื่องทรัพยากรท้องถิ่น และนำไปสู่การเรียนรู้การจัดการทรัพยากร จนนำไปสู่การพึ่งตนเอง รู้จักใช้เหตุผลในการใช้จ่ายทำให้แยกความจำเป็นกับความต้องการได้ชัดเจน   
ปี 2534 นายวินัยและครอบครัวเลิกทำไร่มันสำปะหลังอย่างเด็ดขาด หันมาปลูกป่า   นำผลผลิตในป่ามาเป็นอาหารและยารักษาโรค เมื่อเหลือจึงนำออกขาย นำมาจัดตั้งธนาคารชุมชนหันมาใช้ชีวิตแบบพึ่งตนเอง พยายามลดรายจ่ายทุกด้านที่ไม่เกิดประโยชน์ จึงค่อยลดละ เลิกการพนัน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และสิ่งฟุ่มเฟือย และเลิกได้เด็ดขาดเมื่อปี พ.ศ. 2545 การทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวก็ลดลงไปเอง เพราะคิดไปในทางเดียวกัน ไม่มีข้อตำหนิที่จะมาพูดถึงกัน 3 ปีผ่านไป ชีวิตมีรายจ่ายน้อยมาก จนครอบครัวสามารถปลดหนี้สินได้ ภายใน 3 ปี สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ โดยไม่ลำบาก มีเงินฝากกับธนาคารชุมชน เพื่อเป็นหลักประกันและความมั่นคงในชีวิต และใช้หลักศีลห้า คือ
ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ยึดทางสายกลาง ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตัว ทำตัวเป็นผู้ให้และผู้รับ ผลที่ได้รับคือ ทำให้มีจิตใจอ่อนโยนสุภาพ คนรอบข้างให้ความเชื่อถือ
ด้วยเป็นผู้ใฝ่รู้ จึงได้แสวงหาความรู้ตลอดเวลา ไม่เฉพาะความรู้ที่ได้จากการอ่าน แต่จากการสังเกตและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น เมื่อตัดไม้ที่ปลูกไปใช้ประโยชน์ทั้ง การทำฟืน ทำยา ทำของใช้ หรือกิน และไม้ที่ตัดก็สามารถขึ้นได้อีก ทั้งจากการปลูกทดแทนของเดิมหรือเมล็ดที่ร่วงลงดินแล้วเติบโตขึ้นเอง ซึ่งถือว่าเป็นการอนุรักษ์พืชนั้นได้อีกทางหนึ่ง การปลูกป่าร่วมกับพืชสมุนไพรเพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน สำหรับชีวิตครอบครัว ซึ่งครั้งหนึ่งครอบครัวได้สูญเสียบุตรชายจากอุบัติเหตุ แต่ทุกคนก็สามารถผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ โดยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน กลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ปราศจากความขัดแย้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น