สัมมาทิฏฐิที่
6
ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง “โลกหน้า”
ภาพ 5.14
ภาพ 5.15
ผลของกรรม กรรมในโลกนี้-โลกหน้า
“โลกหน้า” มีความหมาย 2 ประการ คือ
1. ชีวิตหลังความตาย
2. สถานที่สถิตของชีวิตหลังความตาย
1. ชีวิตหลังความตาย หมายความว่า
เมื่อมนุษย์ รวมทั้งสัตว์โลกทั้งมวล ตายแล้ว
ไม่สูญหมด จะสูญสิ้นก็แต่เฉพาะร่างกายซึ่งถูกเผาหรือถูกฝังลงดิน ส่วนใจยังไม่สูญตราบใดที่ใจยังมีกิเลสจะต้องไปเกิด มีชีวิตอาศัยในร่างกายใหม่ต่อไปอีก ส่วนจะไปเกิดมีรูปร่างเป็นอะไรยังไม่รู้ แต่ก็พอจะรู้จากการสังเกตและประสบการณ์ในชาตินี้ว่า มีผู้คนที่ถือกำเนิดเกิดมาในโลกนี้เป็นจำนวนมาก ที่มีสภาพดี ทั้งด้านรูปร่างหน้าตา ด้านฐานะ ตลอดจนสติปัญญาและนิสัยใจคอ ขณะเดียวกันก็มีผู้คนที่เกิดมาเป็นจำนวนมากย่ำแย่ต่ำต้อยกว่าตัวเราทุกๆด้าน นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์ดิรัจฉานอีกมากมาย เกิดอยู่ร่วมโลกกับเรา เป็นเครื่องบ่งบอกว่า การเกิดมาในโลกนี้ ทั้งของผู้คนที่แตกต่างกัน และของสัตว์ดิรัจฉานต่างๆ ล้วนเป็นผลแห่งกรรมที่แต่ละชีวิตเคยสร้างไว้ในอดีตทั้งสิ้น เป็นที่แน่นอนว่าบรรดาสัตว์โลกที่ถือกำเนิดมาเป็นดิรัจฉานนั้น จะต้องมีกรรมชั่วเป็นเหตุ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า
ไม่สูญหมด จะสูญสิ้นก็แต่เฉพาะร่างกายซึ่งถูกเผาหรือถูกฝังลงดิน ส่วนใจยังไม่สูญตราบใดที่ใจยังมีกิเลสจะต้องไปเกิด มีชีวิตอาศัยในร่างกายใหม่ต่อไปอีก ส่วนจะไปเกิดมีรูปร่างเป็นอะไรยังไม่รู้ แต่ก็พอจะรู้จากการสังเกตและประสบการณ์ในชาตินี้ว่า มีผู้คนที่ถือกำเนิดเกิดมาในโลกนี้เป็นจำนวนมาก ที่มีสภาพดี ทั้งด้านรูปร่างหน้าตา ด้านฐานะ ตลอดจนสติปัญญาและนิสัยใจคอ ขณะเดียวกันก็มีผู้คนที่เกิดมาเป็นจำนวนมากย่ำแย่ต่ำต้อยกว่าตัวเราทุกๆด้าน นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์ดิรัจฉานอีกมากมาย เกิดอยู่ร่วมโลกกับเรา เป็นเครื่องบ่งบอกว่า การเกิดมาในโลกนี้ ทั้งของผู้คนที่แตกต่างกัน และของสัตว์ดิรัจฉานต่างๆ ล้วนเป็นผลแห่งกรรมที่แต่ละชีวิตเคยสร้างไว้ในอดีตทั้งสิ้น เป็นที่แน่นอนว่าบรรดาสัตว์โลกที่ถือกำเนิดมาเป็นดิรัจฉานนั้น จะต้องมีกรรมชั่วเป็นเหตุ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน อันมีปกติกระเสือกกระสนนั้นเป็นไฉน
คือ งู แมลงป่อง ตะขาบ พังพอน
แมว หนู นกเค้าแมว หรือสัตว์ทั้งหลายผู้เข้าถึงกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง แม้อื่นๆ ที่เห็นมนุษย์แล้วย่อมกระเสือกกระสน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การอุบัติของสัตว์ย่อมมี เพราะกรรมอันมีแล้วด้วยประการดังนี้แล คือเขาย่อมอุบัติด้วยกรรมที่เขาทำ”
แมว หนู นกเค้าแมว หรือสัตว์ทั้งหลายผู้เข้าถึงกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง แม้อื่นๆ ที่เห็นมนุษย์แล้วย่อมกระเสือกกระสน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การอุบัติของสัตว์ย่อมมี เพราะกรรมอันมีแล้วด้วยประการดังนี้แล คือเขาย่อมอุบัติด้วยกรรมที่เขาทำ”
________________________
ภาพ 5.14, 5.15 ที่มา : หนังสืออภิมหามงคลธรรม, ม.ป.ป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น