วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

สัมมาทิฏฐิที่ 9 ความเห็นเกี่ยวกับสัตว์ที่ผุดขึ้นเกิด


สัมมาทิฏฐิที่ 9 ความเห็นเกี่ยวกับสัตว์ที่ผุดขึ้นเกิด
ในมนุษย์โลก การถือกำเนิดของสัตว์โลกที่ได้รู้ได้เห็นก็จำกัดอยู่เฉพาะการกำเนิดในโลกนี้ ซึ่งโดยทั่วไปทุกคนย่อมเห็นได้ด้วยตาตนเองชัดๆ ว่ามีการถือกำเนิดอยู่เพียง 2 ประเภท ส่วนประเภทที่ 3 ต้องใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ใช้กล้องขยายส่อง คือ
1. อัณฑชะกำเนิด : เกิดในฟองไข่ ได้แก่ สัตว์ดิรัจฉานต่างๆ เช่น ไก่ นก เป็นต้น
2.  ชลาพุชะกำเนิด : เกิดในครรภ์ คือ เกิดในครรภ์หรือจากครรภ์ ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นส่วนมาก เช่น คน สุนัข เป็นต้น
3. สังเสทชะกำเนิด : เกิดในสิ่งโสโครก ในน้ำ ในอาหารบูดเน่า เช่น จุลินทรีย์ หรือสัตว์เซลล์เดียวชนิดต่างๆ เป็นต้น จุลชีวันเหล่านี้แม้เราจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์ คือ กล้องจุลทรรศน์ ใช้ส่องดูได้
สรุปได้ว่า การกำเนิดในมนุษยโลก มีอยู่ 3 ประเภท ด้วยกัน

การกำเนิดนอกมนุษย์โลก
บุคคลใดก็ตามที่ได้สร้างแต่กรรมดีไว้มากมาย สั่งสมบุญไว้มาก เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว
ก็จะถือกำเนิดในลักษณะเกิดแล้วโตทันทีในสถานที่แสนสุขสบาย ยิ่งกว่าในโลกมนุษย์ ซึ่งสมมุติชื่อว่า สวรรค์ หรือโลกสวรรค์ มีรูปกายเป็นทิพย์ สวยงาม เป็นเทพบุตรก็มี เทพธิดาก็มี สวรรค์มีถึง 6 ชั้น แต่ละชั้นงามวิจิตรตระการตาไม่เท่ากัน ใครจะได้ไปบังเกิดในชั้นไหนๆ กรรมจะเป็นผู้จัดสรรให้อย่างเป็นธรรม จะถือว่าเป็นการพักผ่อนระยะยาว หรือรับรางวัลแห่งการทำความดีก็ได้
บุคคลใดก็ตามที่สร้างกรรมชั่วไว้มาก สั่งสมบาปไว้มาก เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว ก็อาจจะถือกำเนิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานอยู่ในมนุษยโลก แต่ผู้ที่สร้างกรรมชั่วไว้มากมายนัก เกินกว่าโลกนี้จะรับได้ สะสมบาปไว้มากมาย เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว ก็จะถือกำเนิดใหม่ในลักษณะเกิดแล้วโตทันทีในสถานที่
อันแสนจะทุกข์ทรมาน ที่มีการลงโทษทัณฑ์อย่างสุดแสนโหดร้ายสุดจะนับจะประมาณมิได้ สถานที่สำหรับให้สัตว์โลกซึ่งทำความชั่วไปถือกำเนิดนั้น เรียกว่า อบาย หรืออบายภูมิ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ภูมิ เรียงลำดับตามโทษหนักลงมาถึงโทษเบา 3 ภูมิแรก คือ นรก เปรต อสุรกาย ซึ่งอยู่นอกโลกมนุษย์ ส่วนภูมิที่ 4 คือ ดิรัจฉาน อยู่ในโลกมนุษย์นี้

ความหมายของ สัตว์ที่ผุดขึ้นกำเนิด
การถือกำเนิดนอกมนุษย์โลก แบบเกิดแล้วโตทันที ทั้งในโลกสวรรค์ และในอบาย
เรียกว่า สัตว์ที่ผุดขึ้นเกิด ซึ่งมีคำศัพท์ทางธรรมว่า โอปปาติกะ หรือ อุปปาติกะ
โอปปาติกะ ที่ผุดขึ้นในโลกสวรรค์ก็มีชื่อว่า ได้เกิดใน สุคติ คือเกิดในสถานที่ที่ดี โอปปาติกะในสุคติมีชื่อเรียกว่า เทพบุตร เทพธิดา ส่วนโอปปาติกะ ที่ผุดเกิดขึ้นในอบาย ก็ชื่อว่าได้เกิดใน ทุคติ คือเกิดในสถานที่ไม่ดี โอปปาติกะในทุคติมีชื่อเรียกว่า สัตว์นรก เปรต อสุรกาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น